นายกฯ อบจ.กาฬสินธุ์ ร่วมประชุม
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาฬสินธุ์

             (17 พ.ค.64) เวลา 13.30 น ณ ห้องประชุมฟ้าแดดสงยาง ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ชั้น 2 นายชานุวัฒน์  วรามิตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมคณะผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาฬสินธุ์  เพื่อขับเคลื่อนภารกิจด้านการป้องกันควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ โดยมีนายทรงพล  ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานการประชุมดังกล่าว ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการ โรคติดต่อจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่มีการโยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่อื่น พร้อมทั้งเกษียณอายุราชการ โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาฬสินธุ์ขึ้นใหม่ เพื่อให้การดำเนินการต่อเนื่องและให้เป็นไปตามการดำเนินงานขับเคลื่อนภารกิจตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ในระดับจังหวัดดำเนินงานไปตามวัตถุประสงค์ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20 มาตรา 21และมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาฬสินธุ์  มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการนโยบาย ระบบ และแนวทางปฏิบัติในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติกำหนด  จัดทำแผนเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดตออันตราย โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง หรือระบาดในเขตพื้นที่จังหวัด  รายงานงานสถานการณ์โรคติดต่อหรือโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่อาจเป็นโรคระบาดซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดต่ออธิบดีกรมควบคุมโรค  ตลอดจนสนับสนุน ส่งเสริม ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในจังหวัดแล้วรายงานต่อคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ  เรียกให้บุคคลใดๆ มาให้ข้อเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็น หรือให้จัดส่งข้อมูลหรือเอกสารใดๆที่จำเป็นหรือข้อคิดเห็นมาเพื่อใช้ประกอบการพิจารณา  และดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวกับการควบคุมโรคติดต่อตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมาย หรือตามบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558  ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีวาระสำคัญ เรื่องพิจารณา การขออนุมัติแผนบริหารวัคซีน 6,000 โดส  ร่างประกาศปิดโรงงานน้ำแข็ง อำเภอกุฉินารายณ์  ร่างแผนโรงพยาบาลสนามเรือนจำ จังหวัดกาฬสินธุ์  และเรื่องอื่นๆเกี่ยวกับการดำเนินงานและเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ทั้งนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์  ได้สนับสนุนให้ใช้สถานที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาราชา เพื่อเป็นสถานที่ให้บุคลากรทางการแพทย์ได้ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชนในพื้นที่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน ไปจนถึงเดือนธันวาคม 2564 โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่เดินทางมารับวัคซีนดังกล่าว